.

เคล็ดลับสั้นๆ ในการ “ลาออก” จากการเป็น “ชนชั้นกลาง” ที่งี่เง่าและน่าเบื่อ

โดย เจริญชัย ไชยไพบูลย์วงศ์


หลายค่ำคืนในยามราตรี ผมตื่นตกใจขึ้นมาจากเตียงอันแสนอุ่น รู้สึกย่ำแย่กับ ฝันร้าย ซ้ำๆซากๆ ที่โหดร้ายที่สุดในชีวิตแบบชนชั้นกลาง นั่นคือ การถูกไล่ออกจากงาน และกำลังจะกลายเป็น คนตกงานเป็นบุคคลล้มละลายที่ไม่พึงปรารถนา แต่เมื่อตื่นขึ้นมาในเช้าวันใหม่อันสดใส และพบว่าเป็นเพียงแค่ความฝัน ผมกลับยิ่งรู้สึกถึงความ ว่างเปล่า ของชีวิต ฝันร้ายที่หนักหน่วงยิ่งกว่าการตกงาน นั่นคือ การต้องตื่นแต่ไก่โห่ เพื่อเร่งรีบยัดเยียดกันไปทำงานให้ทันเวลา โดยที่ไม่เคยรู้เลยว่า งานนั้นมี ความหมายอันใดต่อชีวิต นอกจากความซ้ำซากที่ชาชิน

นี่คือ ชะตากรรมของชนชั้นกลาง ชะตาชีวิตอันหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ทำให้ดีขึ้นได้

1. หยุดหลอกตัวเองด้วยหนังสือ How to

คงมีไม่กี่คนที่สามารถรวยได้ตามนั้น แน่นอนว่า ตัวเราอาจเป็น 1 ในผู้โชคดี ที่สามารถผันตัวเองจากการเป็นลูกจ้างขึ้นเป็นเจ้าของกิจการ แต่หากค้นพบว่า ตนเองไม่ได้มีคุณสมบัติตามนั้น จงใช้หนังสือ How to อย่างชาญฉลาด จำกัดขอบเขตเพียงแค่การปรับปรุงตัวเองให้ดูดีขึ้น มีบุคลิกและความกระตือรือร้นในการทำงาน เพื่อเป็นที่ชื่นชอบและดาวเด่นของเจ้านายและเพศตรงข้ามในออฟฟิศก็คงจะเพียงพอแล้ว

2. ค้นหา เสน่ห์และ ความนุ่มนวลในงานประจำอันน่าเบื่อ

ไม่มีใครหรอกครับที่ชื่นชอบงานประจำ รักอย่างล้นใจ ลืมเสียเถิด ทำงานอะไรก็ได้เพื่อให้มีเงินใช้ แต่กระนั้น คนเราก็อาจแสวงหาความสุขเล็กๆน้อยๆได้จากงานประจำที่น่าเบื่อ เปิดหูเปิดตาเปิดใจเราจะพบว่า ทุกวันล้วนมีเรื่องน่าตื่นเต้น ลองพูดคุย เชิงลึกกับเพื่อนร่วมงานเจ้าประจำที่เห็นหน้ากันมาหลายปีจนเอียนเต็มทน อาจจะพบเรื่องราวและประสบการณ์อันน่าทึ่ง ซึ่งช่วยให้วันเวลา 8 ชั่วโมงนั้น ผ่านไปอย่างรื่นรมย์ บางทีอาจบังเอิญได้รับประกายไฟแห่งแนวคิดธุรกิจ หรือบทนิยายสุดเลิศที่ทำรายได้เป็นกอบเป็นกำก็ได้ ใครจะรู้ล่ะ !

เช้าวันนี้ อาจมีลูกค้าหน้าตาดีติดต่อเข้ามาในแผนกของคุณ อย่าลืมสำรวจการแต่งตัว กลิ่นกาย ทรงผม และปรับปรุงบุคลิกให้สดชื่น มีเสน่ห์อยู่ตลอดเวลา

3. รู้จักรังสรรค์ วันหยุดให้กลายเป็นห้วงเวลาที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้นและแตกต่าง

ปีแรกแห่งชีวิตการทำงาน คุณจะรู้สึกรื่นรมย์อย่างยิ่ง เมื่อ เย็นวันศุกร์มาเยือนอีกหน แต่อยู่ไปนานๆ จะเริ่มรู้สึกว่า อยากนอนตื่นสายๆ เสียมากกว่า เพราะสถานที่พักผ่อนซึ่งเคยสร้างความตื่นเต้นลิงโลดให้กับ เช้าวันเสาร์ได้เริ่มเก่าแก่ตายซากไปเสียแล้ว สยาม โรบินสัน มาบุญครองล้วนหลับตาเดินได้จนทั่วทุกซอกมุม เสม็ด หัวหิน เขาใหญ่ก็ไม่หลงเหลือเสน่หาเย้ายวนที่เคยเชื้อเชิญให้ไปแวะเวียนชื่นชมอีกต่อไป

ลองคิดถึงอะไรที่แปลกใหม่ ไปสังเกตชีวิตของคนที่แตกต่างจากเรา ดังเช่น

กลุ่มศิลปินที่หมกมุ่นกับการสร้างผลงานศิลปะ ลองไปทำความรู้จัก ผูกสัมพันธ์ และค้นหาว่าพวกเขามีแง่มุมต่อชีวิตอย่างไร บางทีเราอาจได้ค้นพบสีสันที่แปลกตาที่ช่วยเติมเต็มความหมายให้ชีวิต คนงานในโรงงานที่แสนจะน่าเบื่อ แต่พวกเขาอาจมีเรื่องเล่าที่น่าสนใจและเพลิดเพลิน ลองเปิดหูเปิดตา เพื่อดื่มด่ำกับชีวิตของชนชั้นล่างดูบ้าง บางทีอาจได้ค้นพบการผจญภัยครั้งใหม่ที่น่าตื่นเต้นฯลฯ

จริงๆ ยังมีมุมมองดีๆอีกมากมายที่อยากจะแนะนำ ซึ่งน่าจะช่วยให้ “40 ปี ในชีวิตชนชั้นกลางดูสดสวยและรื่นรมย์ยิ่งกว่านี้ แต่กระนั้น คำแนะนำดีๆ ย่อมไม่มีความหมาย หากตัวเรา ปิดใจที่จะเปิดออกไปจากโลกที่คุ้นเคย แต่หากกระตือรือร้นที่จะเลิกซึมเศร้าและจมปลักในชีวิตแบบเดิมๆ เพียงแค่ “1 หยดแห่งคำแนะนำ ก็น่าจะเพียงพอแล้ว ที่จะเปลี่ยนแปลงทุกอย่างให้สะอาดสดใหม่ การลาออกจากชีวิตชนชั้นกลางที่เป็นลูกจ้างคนอื่น เพื่อกลายเป็นเจ้าของกิจการที่เต็มไปด้วยอิสรเสรีภาพ ย่อมเป็นเรื่องที่น่ายินดี การลาออกจากงานเก่าเพื่อไปเริ่มงานใหม่ที่เงินเดือนสูงกว่า ก็เป็นเรื่องที่น่าภาคภูมิใจเช่นกัน หรือแม้กระทั่ง การถูกไล่ออกจากงานก็ยังสามารถแปรจากวิกฤตเป็นโอกาสได้ แต่การทำงานอย่างซ้ำซากจำเจไปวันๆ โดยไม่คิดจะเริ่มต้นอะไรที่แตกต่าง นั่นเองเป็น ฝันร้ายที่น่ากลัวที่สุดของทุกชีวิต

การหลุดพ้นจากฝันร้าย ไม่ต้องอาศัยความกล้าหาญยิ่งใหญ่อันใด ไม่ต้องเผชิญกับความเสี่ยงด้วยการลาออกมาเป็นเจ้าของกิจการ เพียงแค่ เปิดรับเสียงบางเสียงที่ไม่เคยใส่ใจ สีบางสีที่แกล้งมองเลยผ่านไป ลองติดตาม ค้นหา เปิดโอกาสให้ ตัวตนที่แสนเหนื่อยล้าหมกมุ่น ได้สัมผัสสายลมแห่งความสดชื่นสักเพลาหนึ่ง

ทุกย่างก้าวนับจากนี้ คุณจะไม่โดดเดี่ยวเปลี่ยวเหงาอีกต่อไป

ที่มา siamintelligence.com